ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน ถ้าพูดถึงเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูง ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงเพชรและทองเป็นหลัก เพราะด้วยราคาที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวันของทองคำ จึงทำให้สามารถสร้างสภาพคล่องให้กับผู้ซื้อและผู้ขายได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันเพชรเองแม้จะราคาไม่ได้ขึ้นลงมากนัก แต่ถือว่ามีมูลค่าที่สูงด้วยเช่นกัน ทั้งยังเป็นมูลค่าที่จะไม่ตกลง ดังนั้นจึงเกิดเป็นความรู้สึกลังเลใจของผู้ที่ต้องการลงทุนไปกับเครื่องประดับว่าควรเลือกซื้อเป็นเพชรหรือทองดี จึงจะให้ความคุ้มค่ามากกว่ากัน

เลือกซื้อเครื่องประดับเพชรหรือทอง แบบไหนที่จะทำให้คุณคุ้มมากกว่ากัน

เชื่อว่าใครหลายคนที่กำลังสนใจจะลงทุนกับเครื่องประดับมูลค่าสูงอย่างเพชรและทอง อาจจะรู้สึกสงสัยว่าการลงทุนในรูปแบบใดจะมีความคุ้มค่ามากกว่ากัน ซึ่งต้องดูว่าการลงทุนที่คุณต้องการนั้นเป็นในรูปแบบใดบ้าง ถ้าเป็นในรูปแบบระยะยาวที่ให้ความปลอดภัยสูง เพชรจะเหมาะสมต่อการซื้อมาสะสมมากที่สุด เพราะเพชรจะมีมูลค่าที่ค่อนข้างมั่นคงและเมื่อมีปัญหาเศรษฐกิจ เพชรมักจะสวนกระแสต่อวิกฤติที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เนื่องมาจากคนในกลุ่มชั้นกลางทางแถบประเทศ บราซิล, รัสเซีย, จีน และอินเดีย ยังคงต้องการเพชรเพื่อการแสดงออกถึงหน้าตาทางสังคมอยู่เสมอ

ราคาของเพชรก็มักจะไม่ผันผวนมากเท่าทองคำ แต่ถ้าคุณต้องการราคาซื้อขายคล่องตัว ทั้งยังมีการเปิดตลาดใหม่และมีทองคำที่ถูกค้นพบใหม่อยู่เสมอ ขอแนะนำให้เป็นการลงทุนไปกับทองคำ พร้อมให้ความน่าเชื่อถือสูง เพราะสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่าเพชร มีร้านขายจำนวนมาก เชื่อว่าใครหลายคนที่กำลังสนใจจะลงทุนกับเครื่องประดับมูลค่าสูงอย่างเพชรและทองอาจจะรู้สึกสงสัยว่าการลงทุนในรูปแบบใด จะมีความคุ้มค่ามากกว่ากัน ซึ่งต้องดูว่าการลงทุนที่คุณต้องการนั้นเป็นในรูปแบบใดบ้าง ถ้าเป็นในรูปแบบระยะยาวที่ให้ความปลอดภัยสูง เพชรจะเหมาะสมต่อการซื้อมาสะสมมากที่สุด

การซื้อขายเพชรในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายขึ้น เพราะมีการคัดเกรดเพชรออกมาหลายเกรดด้วยกัน ดังนั้นการเลือกซื้อจึงต้องมีความระมัดระวังมากพอสมควร ถ้าต้องการซื้อเพชรเพื่อเก็บสะสมไว้ขาย หรือมอบเป็นทรัพย์สินให้กับลูกหลานในอนาคต ควรเลือกเป็นเพชรที่มีระดับดี เกรดน้ำงาม และให้ลวดลายการเจียระไนที่ดีเยี่ยม พร้อมการมีใบเซอร์จากสถาบันที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อทำให้สามารถนำไปยืนยันกับทางร้านเพชรและขายออกง่ายขึ้น นอกจากนี้การซื้อขายเพชรยังมีปัจจัยอีกหลายรูปแบบที่จะทำให้ราคาค่อนข้างแตกต่างกัน

โดยมีทั้งในเรื่องของตัวเรือนเครื่องประดับ, ขนาด, น้ำหนัก, ลวดลาย, การเจียระไน, ตำหนิหรือมลทิน, ความลึก, ความกว้าง และอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เพชรในแต่ละรูปแบบแตกต่างกัน ทั้งเรื่องของคุณสมบัติและราคา ดังนั้นราคาของเพชรจึงไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับการตีราคาของร้านเพชรเป็นหลัก การลงทุนด้วยเพชรจึงยิ่งเก็บนานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้มูลค่าที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนทองคำที่ได้รับความนิยมและมีราคาสูงมาก คือ 99.99% แต่จะมีความอ่อนบางค่อนข้างมาก ภายในตลาดทองคำจึงจะมีค่าเปอร์เซ็นอยู่ที่ 96.5% เพื่อให้สามารถขึ้นรูปได้อย่างเหมาะสม

ทองคำจะเก็บรักษาได้ง่าย แต่ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ดีและจะต้องไม่ถูกการกัดกร่อน หรือผลกระทบจากสภาพแวดล้อมมากนัก เพราะอาจจะทำให้เนื้อทองหายไปได้เรื่อย ๆ ส่วนเรื่องของราคาจะผันผวนขึ้นลงตามราคาของตลาดโลก หรือตลาดกลางเป็นหลัก ดังนั้นถ้าคุณต้องการลงทุนแบบทรัพย์สินสำรอง เก็บทองคำไว้เพื่อเป็นเงินฉุกเฉิน จะถือว่ามีความเหมาะสม เพราะจะขายง่ายกว่าเพชร ไม่มีต้องมีการตรวจสอบใบอนุญาต ขายได้ทุกร้าน เพียงแค่เป็นทองแท้ก็พร้อมรับเงินสดไปใช้ได้ทันที

สรุปโดยรวมแล้วการลงทุนของทั้งเพชรและทอง มีมูลค่าที่เท่าเทียมกัน แต่ราคาของเพชรจะสูงกว่าเนื่องมาจากการเป็น อัญมณีตามธรรมชาติที่หาได้ยากกว่าทองคำ ทั้งยังมีปัจจัยต่าง ๆ สูงกว่า ดังนั้นถ้าคุณต้องการลงทุนระยะยาว เก็บได้นาน โดยราคาไม่ตก เพชรจะเหมาะสมกับคุณที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการใช้เป็นทรัพย์สำรอง เพื่อจ่ายในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ ทั้งยังให้ความสวยงามและหน้าตาทางสังคม ทองคำถือว่าเหมาะสมที่สุด