วิธีเลือกเพชร 1 กะรัต ให้สวยถูกใจ สบายกระเป๋า
‘เพชร’ เป็นเครื่องประดับที่สวยงาม มีมูลค่ามากกว่าทองเยอะมาก ถึงแม้ว่าจะมีกะรัตน้อย แต่ราคาก็ยังสูงลิบลิ่ว เพราะเพชร 1 กะรัต นั้นมีราคาสูงถึง 80,000 – 600,000 บาท ราคาอัพเดทล่าสุดปี 2022 นี้เลย ซึ่งราคาหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมมันถึงต่างกันมากขนาดนี้ ? คำตอบก็คือ ราคาของเพชรจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของเพชรเม็ดนั้น ๆ ซึ่งจะต้องดูหลายปัจจัย
ตัวกำหนดราคาของเพชร คืออะไร ?
อย่างที่เราได้บอกไปในข้างต้นว่า เพชร 1 กะรัต จะมีราคาเริ่มต้นที่ 80,000 บาท มากไปจนถึง 600,000 บาท ถึงแม้ว่าจะมีกะรัตเท่ากัน แต่ราคามันต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งตัวกำหนดราคานั้นจะมีหลากหลายปัจจัย เช่น น้ำของเพชร ต้องดูว่าเพชรมีน้ำเท่าไหร่ น้ำ 100 %, น้ำ 99 %, น้ำ 98 %, น้ำ 97 % ตามลำดับ ยิ่งน้ำเยอะ ก็จะยิ่งแพง เพราะเพชรน้ำเยอะจะสวยกว่า ทั้งเรื่องของสีและเนื้อ เป็นเพชรที่ไร้ตำหนิ แต่ถ้ามีสีเหลืองบนหรือมีตำหนิราคาก็จะเบาลงมา ยิ่งถ้าเพชรไม่ใสเลย เป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม ในเกรดน้ำ 90 % ราคาจะถูกที่สุด แต่ความสวยงามก็แล้วแต่คนชอบรวมถึงงบประมาณ, ความสะอาดของเพชร และ การเจียระไน เป็นต้น
วิธีเลือกเพชร 1 กะรัต ให้สวยถูกใจ สบายกระเป๋า
1.กำหนดงบประมาณ
อย่างแรกเลยก่อนที่เราจะเลือกซื้อเพชร 1 กะรัต ถ้าอยากให้ถูกใจ สบายกระเป๋า จะต้องมีการกำหนดงบประมาณในใจมาก่อน ว่าเรามีงบเท่าไหร่ หรือ สบายใจที่จะซื้อเพชรในราคาเท่าไหร่ การกำหนดงบประมาณจะทำให้เราได้เลือกซื้อเพชรที่ถูกใจ โดยที่งบประมาณจะไม่บานปลาย ตัวเลือกก็จะน้อยลง จะมีแต่ตัวเลือกที่อยู่ในเกณฑ์ที่เราต้องการ เลือกได้ง่ายขึ้นด้วย
2.การเจียระไนเพชร
ต่อมาเราจะต้องดูการเจียระไนเพชรด้วย การเจียระไนเพชร 1 กะรัต นั้นจะมีรูปทรงในการเจียระไนที่แตกต่างกันออกไป งานจะต้องละเอียดมาก เพราะว่ามีขนาดเล็ก ซึ่งการเจียระไนแบบต่าง ๆ นั้น จะส่งผลต่อคุณค่าและความสวยงามของเพชรด้วย ก่อนที่จะเลือกซื้อเพชร 1 กะรัต ก็ควรดูควรถามรายละเอียด เพิ่มเติมด้วยว่าเป็นยังไง ? เล่นแสงมากแค่ไหน เป็นประกายระยิบระยับมากน้อยแค่ไหน แต่นอกจากความสวยงามภายนอกแล้ว ควรจะดูสัดส่วนความสมมาตร มุมต่าง ๆ เป็นอย่างไร ควรจะเท่า ๆ กันทั้งหมด ความหนาและความบางจะต้องพอดีกัน ซึ่งมาตรฐานในการเจียระไน จะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ตาม GIA ประกอบไปด้วย Excellent ( ดีที่สุด ), Vary Good ( ดีมาก ), Good ( ดี ), Fair ( พอใช้ ) และ Poor (แย่ ) ถ้าอยากจะซื้อเพชร 1 กะรัต ให้สวยถูกใจ พยายามอย่าเลือกซื้อเกรดราคาที่ถูกจนเกินไป ควรจะซื้อเกรด Excellent และ Vary Good จะได้เพชรที่สวยงาม ถูกใจและยังอยู่ในงบที่เรารับไหวแน่นอน
3.เลือกซื้อจากน้ำของเพชร
ในการเลือกซื้อเพชร 1 กะรัต อยากให้ทุกคนให้ความสนใจกับเรื่อง น้ำของเพชร สำหรับคนที่ซื้อเพชรเป็นประจำอยู่แล้วจะต้องมีความรู้เรื่องนี้ก่อนซื้อเพชร เพราะน้ำของเพชรเป็นสิ่งแรกที่จะส่งผลต่อความสวยงามของเพชรที่เราสามารถมองด้วยตาเปล่า ในการซื้อเพชรซื้อทั้งที่ถ้าอยากได้เพชรที่สวย ถูกใจ อย่าซื้อที่น้ำที่ต่ำกว่า 95 % เพราะ ความสวยงามของมันก็จะลดหลั่นลงไป ยิ่งลด % ไปมากเท่าไหร่ สีจะเหลือง ความใสจะหายไปเรื่อย ๆ
4.ความสะอาดของเพชร
อีก 1 วิธีการเลือกซื้อเพชร 1 กะรัต ให้สวย ถูกใจ สบายกระเป๋า นั่นก็คือ ความสะอาดของเพชร เป็นสิ่งที่กำหนดคุณภาพและราคาของเพชร ความสะอาดของเพชรที่เราพูดถึงก็คือ ‘ตำหนิ’ นั่นเอง ยิ่งตำหนิเยอะเท่าไหร่ความสะอาดก็จะลดลงไป แต่ถ้าตำหนิน้อย หรือไร้ตำหนิ ก็จะถือว่าเป็นเพชรที่สะอาด ราคาก็จะสูงกว่า แต่ถ้าใครที่งบไม่เยอะนัก อาจจะเลือกซื้อตำหนิในระดับ Very Slightly Inclusion จะเห็นตำหนิไม่ได้ด้วยตาเปล่า แต่ราคาจะเบากว่าระดับ Flawless มาก แต่ยังคงความสวยงาม และความเปล่งประกาย
นอกจากนี้การเลือกซื้อเพชร 1 กะรัต ให้สวย ถูกใจ สบายกระเป๋า นอกจากสบายกระเป๋าแล้วก็จะต้องสบายใจด้วย การซื้อเพชรทุกครั้งควรที่จะอ่านใบเซอร์ GIA ประกอบการตัดสินใจ อ่านรายละเอียดตรวจเช็คเลขใบเซอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้เพชรที่ดี ตรงตามมาตรฐาน ตรวจสอบได้
อัพเดทราคาแหวนเพชร 1 กะรัตปี 2567
แหวนเพชร 1 กะรัต อัพเดทล่าสุดปี 2567 ราคาเท่าไหร่ เป็นคำถามของคนที่กำลังมองหาแหวนเพชร 1 กะรัตใช้เป็นแหวนหมั้นแหวนแต่งงานหรือแหวนแฟชั่นสวมใส่ได้หลายโอกาส ราคาของเพชร 1 กะรัตประมาณ 80,000-600,000 บาท ราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสะอาด น้ำ การเจียระไน ฯลฯ ซึ่งราคาของแหวนเพชร 1 กะรัตที่เราพูดถึงอยู่นี้โฟกัสไปที่เพชรทรงกลมเท่านั้นเนื่องจากเป็นเพชรที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน
น้ำหนักกะรัตเพชรหมายถึงอะไร
กะรัต คือหน่วยที่ใช้เรียกน้ำหนักของเพชร เพชร 1 กะรัตมีน้ำหนัก 200 มิลลิกรัม หรือ 0.2 กรัม หากเพชร 1 กะรัตราคา 90,000 บาทเท่ากับว่าเพชร 0.5 กะรัตราคา 45,000 บาทนั่นเอง
ซื้อเพชร 1 กะรัตจำเป็นต้องมีใบเซอร์หรือไม่
การที่คุณจะตัดสินใจซื้อเพชรได้นั้น ใบเซอร์คือสิ่งสำคัญแต่ก็ใช่ว่าเพชรไม่มีใบเซอร์จะไม่ใช่เพชรที่มีคุณภาพดี หากคุณเลือกร้านขายเพชรที่เชื่อถือได้อาจไม่จำเป็นต้องมีใบเซอร์เสมอไป ใบเซอร์ของเพชร เป็นเอกสารหรือใบรับรองที่ออกโดยสถาบันอัญมณีศาสตร์ได้รับการยอมรับในระดับสากลเช่น GIA, HRD, IGI เป็นต้น อาจไม่ได้การันตีว่าเพชรที่มีใบเซอร์จะเป็นเพชรที่มีคุณภาพดี แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเพชรมีใบเซอร์คือเพชรแท้แน่นอน
ความแตกต่างของใบเซอร์ GIA, HRD, IGI
1.ใบเซอร์เพชร GIA
Gemological Institute of America หรือ GIA สถาบันอัญมณีศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สถาบันนี้เป็นผู้คิดค้นหลัก 4Cs เพชรที่มีใบเซอร์ GIA ซื้อง่ายขายคล่องมากกว่าสถาบันอื่นๆ สำหรับใบเซอร์แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ ใบเซอร์แบบย่อสำหรับเพชรที่มีขนาด 0.3-1 กะรัต ใบเซอร์แบบเต็มสำหรับเพชรที่มีขนาด 1 กะรัตขึ้นไป
2.ใบเซอร์เพชร HRD
HRD Antwerp หรือ HRD สถาบันอัญมณีศาสตร์ของประเทศเบลเยียมซึ่งเป็นศูนย์กลางการเจียระไนและการค้าเพชรอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียวสถาบันนี้จะออกใบเซอร์ให้กับเพชรที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 กะรัตขึ้นไปเท่านั้น
3.ใบเซอร์เพชร IGI
International Gemological Institute หรือ IGI สถาบันตรวจสอบเพชรมีสาขาอยู่หลายแห่งทั่วโลก มีห้องแลปเพื่อการวิจัยตรวจสอบเพชรหรืออัญมณีต่างๆ ค่าบริการในการออกใบซื้อของสถาบันนี้ไม่แพงเลย แต่สถาบันนี้อาจไม่ได้รับความนิยมเท่ากับสถาบัน GIA หรือ HRD
หวังว่าเทคนิคการเลือกซื้อเพชร 1 กะรัตให้สวยถูกใจราคาสบายกระเป๋า รวมถึงสาระความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเพชรที่เราเอามาแชร์จะพอเป็นแนวทางหรือมีประโยชน์กับหลายๆ คนที่สนใจในเครื่องประดับเพชร โดยเฉพาะมือใหม่ทำให้คุณมีความรู้และความเข้าใจมากขึ้น