เพชรใบเซอร์ ไม่มีใบเซอร์ แตกต่างกันอย่างไร

            การซื้อสินค้าทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับก็คือใบรับประกัน เพื่อบ่งบอกคุณภาพหรือบอกอายุการใช้งานของสินค้านั้น ๆ ว่าเป็นสินค้าดีมีคุณภาพมากน้อยเพียงใด การซื้อเครื่องประดับเพชร ซึ่งเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าก็เช่นเดียวกันที่จะต้องมีใบเซอร์ เพื่อรับรองคุณภาพของเพชร แต่หลายคนอาจมีข้อสงสัย ใบเซอร์ คืออะไร และเพชรใบเซอร์ ไม่มีใบเซอร์ แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้เพชรชมพู จิวเวลรี่ มีคำตอบมาให้ค่ะ

ใบเซอร์เพชร คืออะไร

            ใบเซอร์  เป็นเอกสารที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นใบรับประกันเพชร เมื่อต้องการเลือกซื้อเพชรก็จะให้ความสำคัญและต้องการใบเซอร์มาเป็นหลักฐาน แต่ในความเป็นจริงเอกสารที่ใช้รับประกันเพชรหรือระบุคุณภาพของเพชร มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ใบเซอร์ และใบรับประกัน ซึ่งเอกสารทั้ง 2 ชนิดใช้ประโยชน์แตกต่างกัน ดังนี้

  1. ใบเซอร์ คือ เอกสารหรือใบรับรองเพชรที่ออกโดยสถาบันอัญมณีที่ยอมรับกันในระดับสากล

เช่น GIA หรือ HRD โดยจะออกเป็นเอกสารรับรองให้แก่เพชรแต่ละเม็ด พร้อมแจ้งรายละเอียดได้แก่ น้ำหนักเพชร หรือกะรัต รวมไปถึงร่องรอยความสะอาดของเพชร เกรดหรือสีของน้ำเพชร มาตรฐานการเจียระไน เลขทะเบียนของเพชร หรืออื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เพชรที่จะได้ใบรับรองหรือใบเซอร์ มักจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 0.30 กะรัต ขึ้นไป การรับรองพร้อมแจ้งรายละเอียดของเพชรไว้อย่างละเอียด จึงทำให้เพชรใบเซอร์มีราคาสูงกว่าเพชรที่ไม่มีใบเซอร์

  1. ใบรับประกันเพชร เป็นเอกสารที่ทางร้านจำหน่ายเพชรออกให้กับลูกค้า เพื่อยืนยันว่าเป็น

เครื่องประดับเพชรที่ซื้อไปจากร้าน โดยในใบรับประกันเพชรจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อสินค้า ราคา น้ำหนักกะรัต ขนาด ความสั้นยาว วัน เดือน ปี ที่ซื้อ หรือรายละเอียดอื่น ๆ การที่ทางร้านเพชรออกใบรับประกันเพชรให้กับลูกค้า จึงเปรียบเสมือนเอกสารยืนยันให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเป็นเครื่องประดับเพชรแท้ เพชรจากธรรมชาติ หรือเป็นเพชรสังเคราะห์ และยังเป็นเอกสารยืนยันต่อร้านจำหน่ายเพชร กรณีต้องการนำไปขายคืนหรือแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งทางร้านจะมีเงื่อนไขในการหักเปอร์เซ็นต์สำหรับลูกค้าเดิมไว้ในใบรับประกันเพชรอยู่แล้ว

ความสำคัญของใบเซอร์และใบรับประกันเพชร

  1. เครื่องประดับเพชรที่มีใบเซอร์ เปรียบเสมือนมีใบรับประกันคุณภาพของเพชร เพราะเป็น

เอกสารที่ออกโดยสถาบันที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเพชรในระดับสากล

  1. ใบเซอร์เพชร ซึ่งออกโดยสถาบันที่ได้มาตรฐานในระดับสากล มักจะออกให้กับเพชรที่มีขนาด

ตั้งแต่ 0.30 กะรัต เป็นต้นไป ทำให้ทราบน้ำหนักเบื้องต้นของเครื่องประดับเพชรที่มีใบเซอร์ชิ้นนั้น ๆ ได้ทันทีและรู้รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องประดับเพชรชิ้นนั้น

  1. เพชรที่มีใบเซอร์หรือใบรับประกันเพชร ช่วยให้ง่ายต่อการซื้อขายเนื่องจากเป็นเสมือนเอกสาร

ระบุตัวตนของเครื่องประดับเพชรชิ้นนั้น และสิ่งสำคัญเพชรที่มีใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันชั้นนำในระดับสากล สามารถขายได้ราคาดีกว่าเพชรที่ไม่มีใบเซอร์หรือไม่มีใบรับประกัน

  1. ใบเซอร์หรือใบรับประกันเพชร ช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพของเพชร เนื่องจากเอกสารทั้ง

2 ชนิดจะมีรายละเอียดบ่งบอกคุณสมบัติของเพชรไว้อย่างละเอียด ทั้ง ชื่อสินค้า ขนาด น้ำหนักกะรัต สีของเพชน วัน เดือน ปี ที่ซื้อ หรือรายละเอียดอื่น ๆ

  1. ใบเซอร์หรือใบรับประกันเพชร ช่วยให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบคุณภาพ และราคาของ

เครื่องประดับเพชรที่เราสนใจ เพราะเมื่อเราเลือกซื้อเพชรที่มีใบเซอร์หรือใบรับประกันจากร้านเพชร ก็สามารถนำข้อมูลหรือรายละเอียดของเพชรเม็ดต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกันได้ง่าย ช่วยให้การเลือกซื้อเพชรที่มีขนาด น้ำหนักกะรัต และรูปแบบ เดียวกันได้ในราคายุติธรรมจากร้านเพชรคุณภาพมาตรฐาน เป็นต้น

จากข้อสงสัยที่ว่า เพชรใบเซอร์ ไม่มีใบเซอร์ แตกต่างกันอย่างไร สรุปเพื่อให้เห็นความแตกต่างกันก็คือ ใบเซอร์หรือใบรับรองเพชรจะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ใบเซอร์เพชรที่ออกจากห้องแล็บตรวจวิเคราะห์เพชรวัตถุประสงค์หลักเพื่อแจ้งคุณภาพที่แท้จริงของเพชรแต่ละเม็ดให้ลูกค้าได้ทราบอย่างละเอียดก่อนจะตัดสินใจซื้อ ส่วนใบรับประกันเพชร เป็นใบรับประกันที่ร้านเพชรออกให้ลูกค้า เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดของสินค้าที่ซื้อไป แต่ละร้านจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป อาจใช้นามบัตรแล้วเขียนรายละเอียดไว้ด้านหลัง หรือจัดทำเป็นรูปเล่มเล็ก ๆ เป็นเอกสารแผ่นเดียว ขึ้นอยู่กับคุณภาพและมาตรฐานของร้านเพชรเป็นสำคัญ

ข้อควรระวังเพชรมีใบเซอร์ 

1.ใบเซอร์ต้องเป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

แม้ว่าเพชรที่มีใบเซอร์จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเป็นเพชรแท้ แถมยังช่วยให้ซื้อง่ายขายคล่องเหมาะกับการลงทุน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพชรที่มีใบเซอร์ทุกใบจะดีเหมือนกันทั้งหมด ต้องดูด้วยว่าใบเซอร์นั้นๆ ออกโดยสถาบันไหน จะต้องเป็นสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือหรือได้มาตรฐานระดับสากลเท่านั้น เช่น GIA, HRD, IGI เป็นต้น 

2.ตรวจสอบให้ดีระวังใบเซอร์ปลอม 

ร้านเพชรบางร้านแอบอ้างว่าเพชรผ่านการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ อย่างเช่น GIA ซึ่งมีการทำใบเซอร์เพชรปลอมเลียนแบบขึ้นมาจนลูกค้าหลงเชื่อ ตัดสินใจซื้อเพชรไปในราคาสูง ต้องระวังถ้าไม่อยากถูกหรอก สิ่งที่ต้องทำคือการตรวจสอบเลขในใบเซอร์ตรงกับเลขที่เลเซอร์บนขอบเพชรหรือไม่ สำหรับใบเซอร์ GIA ให้สังเกตที่ GIA Report Number นอกจากนั้นให้คุณสังเกตที่เครื่องหมายกันปลอม หรือตราประทับของสถาบัน โดยปกติแล้วจะทำเป็นเครื่องหมายโลโก้นูน มีเอกลักษณ์ยากต่อการลอกเลียนแบบ 

3.เพชรใบเซอร์ย่อต้องมีเลขบนขอบเพชร 

หลายคนเข้าใจว่าถ้าเป็นใบเซอร์ GIA ฉบับย่อที่ส่วนมากจะออกให้กับเพชรน้ำหนักน้อยกว่า 1 กะรัต จะไม่มีการเลเซอร์ตัวเลขบนขอบเพชร ในความเป็นจริงถึงจะเป็นใบเซอร์แบบย่อ แต่ก็ต้องมีการเลเซอร์ตัวเลขที่ขอบเพชรและตัวเลขต้องตรงกับ GIA Report Number ด้วยเช่นกัน ถ้าไม่มีให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ไม่เพชรปลอมก็ใบเซอร์ที่ปลอม 

4.เก็บรักษาใบเซอร์เพชรให้ดีอย่าให้หาย 

เมื่อได้ใบเซอร์เพชรมาแล้ว ควรเก็บรักษาให้ดีอย่าเผลอทำหายเป็นอันขาด จริงๆ ถ้าทำหายคุณสามารถขอใบเซอร์ใหม่ได้แต่การทำใบเซอร์เพชรหายแล้วขอใหม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน 

5.เพชรมีใบเซอร์ไม่ใช่เพชรที่สวยที่สุด 

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเพชรที่มีใบเซอร์รับรองจากสถาบันดังๆ เช่น GIA, HRD, IGI เป็นเพชรที่สวยมีคุณภาพดีเหมือนกันหมดทุกเม็ด จริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพชรมีใบเซอร์ช่วยทำให้มั่นใจว่าคุณได้เพชรแท้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณได้เพชรเม็ดที่สวยที่สุด จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ ในใบเซอร์อีกที เช่น ดูในส่วนของน้ำหนักกะรัต การเจียระไน สีหรือน้ำเพชร ความสะอาดหรือตำหนิ เป็นต้น 

มาถึงตรงนี้คงไขข้อสงสัยได้แล้ว ใช่ไหมว่า ใบเซอร์เพชรคืออะไรและมีความสำคัญมากแค่ไหน แม้ใบเซอร์เพชรจะสำคัญมากๆ แต่ก็มีข้อควรระวังหลายอย่าง ใบเซอร์เพชรต้องออกโดยสถาบันที่เชื่อถือได้ ระวังใบเซอร์ปลอม ควรเก็บใบเซอร์ให้ดีอย่าทำหายเพราะมีค่าใช้จ่ายในการขอใหม่ และเพชรที่มีใบเซอร์ ไม่ใช้เพชรที่สวยที่สุด สิ่งสำคัญเลยคือต้องอ่านใบเซอร์ให้เป็น จะได้ไม่ถูกหรอก

 

01 August 2022 2139
add line petchchompoo