ปกติแล้ว การเลือกซื้อหยกสักชิ้น มักจะเป็นการซื้อในแง่ของการนำมาทำเป็นเครื่องประดับแล้ว มากกว่าการจะซื้อหยกแบบเป็นก้อนๆ แล้วเอาไปทำเครื่องประดับกันเองมากกว่า บางครั้งจึงอาจพบว่าหยกที่คุณซื้อมามีราคาแพงมากกว่าความเป็นจริง และอาจจะไม่ได้สวยงามแบบที่คุณคิดไว้ด้วย เราจึงขอแนะนำวิธีการเลือกหยกให้ถูกใจ และสมกับราคาที่จ่ายไปให้เอาไปใช้กัน

1. สีของหยก

ถ้าพูดถึงหยก คนทั่วไปจะต้องนึกถึงอัญมณีที่มีสีเขียวทึบหน่อยๆ แต่จริงๆ แล้วหยกมีหลายสีกว่าที่คิดมาก มีทั้งแบบสีเขียวเข้มจนเหมือนมรกต ไปจนถึงสีเขียวที่ออกอมเหลือง หรือสีเขียวอมขาวจนดูเกือบๆ เหมือนเป็นสีฟ้าแล้ว การเลือกหยกที่ดี ควรเลือกที่มีสีสม่ำเสมอเท่ากันทั้งชิ้น เว้นแต่ว่าคุณจะชอบหยกที่มีลวดลายสลับแซมกันไป สิ่งที่ต้องระวังก็คือ หากเป็นหยกที่มีการแกะสลัก ช่างมักจะสลักบริเวณที่มีสีเข้ม หรือสีอ่อนต่างจากที่อื่นเพื่อหลอกตาให้ดูว่าสีสม่ำเสมอกัน และมักจะขายแพงกว่าความเป็นจริงจากสิ่งนี้

2. ความโปร่งใส

ถึงแม้ว่าหยกทั่วๆ ไปจะมีสีทึบ หรือดูโปร่งใสได้น้อย แต่จริงๆ แล้วหยกที่มีความโปร่งใสมากๆ ก็มี และหยกแบบนี้ก็มักจะมีราคาแพงกว่าหยกที่ทึบแสงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับเรื่องสีของหยกมากกว่า สำหรับกรณีที่เจอหยกสีสวยแต่ไม่โปร่งแสง กับหยกที่สีไม่ค่อยสวยแต่โปร่งแสงมากๆ เพราะถ้าเลือกอย่างหลัง อาจเจอปัญหาเรื่องของการย้อมแมวได้

3. ความสะอาด

ความสะอาดในที่นี้ หมายถึงรอยต่างๆ บนตัวหยก ทั้งรอยร้าว รอยขีดข่วน รอยด่างของสี ชาวจีนโบราณมีความเชื่อกันว่า หยกเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่สามารถใช้คุ้มกันตัวผู้สวมใส่จากสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ หากพบรอยร้าวหรือรอยแตกที่หยก ก็แปลว่าหยกได้รับเคราะห์นั้นไปแล้ว ให้ทิ้งทันที ห้ามเอามาสวมใส่อีก เพราะฉะนั้นการจะซื้อหยกก็ต้องพิจารณาสิ่งนี้ให้มากๆ ควรเลือกหยกที่สะอาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

4. การเจียระไน

หยกเองก็เหมือนเพชร แม้จะไม่ได้มีการเจียระไนเป็นเหลี่ยมมุมมากมายเหมือนกับเพชรหรืออัญมณีอื่นๆ และมักจะเน้นไปที่การแกะสลักมากกว่า แต่ก็ต้องดูในเรื่องของสัดส่วน และความสวยงามต่างๆ เช่นเดียวกัน ในกรณีที่ซื้อแหวนหยก ก็ควรจะดูให้มีความหนาประมาณหนึ่ง หรือถ้าเลือกซื้อกำไลหยก ก็ต้องเลือกที่มีความหนาเท่ากับบุหรี่ 1 มวน เพื่อป้องกันไม่ให้หยกแตกหักในกรณีที่เผลอเอามือกระแทกกับโต๊ะหรือของแข็งอย่างอื่น

5. หยกปลอม

เจอกันมาเยอะแล้วว่ามีการเอาวัสดุอื่นๆ รวมถึงอัญมณีที่ไม่มีค่ามาย้อมสีให้กลายเป็นหยก แล้วหลอกขายในราคาแพงๆ ที่มักจะพบเห็นได้บ่อยก็คือแร่ควอตซ์สีใสที่ง่ายต่อการย้อม เวลาเห็นเป็นก้อนก็ดูเหมือนหินหรือหยกจริงๆ ถ้าหากว่าคนขายบอกคุณว่าหยกชนิดนี้เป็นหยกอินเดีย หรือหยกเกาหลี ก็ขอให้รู้เลยว่านั่นไม่ใช่หยกจริงๆ และถ้าหากว่าคุณถูกใจก็ควรต่อรองในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือถ้าหากจะเอาให้ชัวร์ที่สุด ก็ควรขอให้คนขายส่งหยกชิ้นนั้นๆ ไปตรวจสอบกับสถาบัน หรือผู้ที่มีความรู้ทางอัญมณีศาสตร์ยืนยันว่าใช่หยกจริงๆ หรือไม่ เพราะหลังๆ ก็เริ่มมีการเอาแก้วมาปลอมแปลงเป็นหยกอยู่บ่อยครั้ง

6. หยกย้อม

ในข้อนี้คือหยกจริงๆ แต่เป็นการเอาหยกที่ไม่มีคุณภาพ เช่น อาจจะมีลายด่างมากเกินไป มีริ้วรอยมากเกินไป หรือไม่มีความโปร่งใสเท่าที่ควร มาปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ เพื่อทำให้หยกกลับมาสวยงามเหมือนเดิม และส่วนมากก็มักจะไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ด้วย บางครั้งอาจมีการเอาหยกไปขัดเงาหรือเคลือบด้วยสารเคมีบางอย่างเพื่อทำให้แวววาวดูน่าซื้อ และมักจะมีการตั้งราคาขายสูงกว่าปกติ

ถ้าหากว่าคุณกำลังจะเลือกซื้อหยกสักชิ้น เพื่อใช้เป็นของขวัญมอบให้แก่ผู้ใหญ่ ใช้เป็นเครื่องประดับในงานแต่งงาน หรือซื้อเพื่อนำไปเสริมดวงตัวเอง ควรเลือกซื้อหยกแท้ตามคุณสมบัติเหล่านี้ได้เลย หรือถ้าจะเอาให้มั่นใจ ก็ควรเลือกซื้อกับร้านที่เชื่อถือได้ มีใบเซอร์รับรองให้ก็จะดีที่สุด

หยกแบบไหนราคาแพงได้รับความนิยม 

อย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้น สีของหยกหยกไม่ได้มีแค่สีเขียวแต่ยังมีอีกหลากหลายสีสัน เช่น สีม่วง สีดำหรือสีเทา หยกสีแดง หยกสีขาว หยกสีเหลือง หยกสีฟ้าแกมเขียว ฯลฯ หยกที่ได้รับความนิยมและมีราคาแพงก็คือ หยกสีเขียวแต่ไม่ใช่สีเขียวธรรมดาต้องเป็นหยกสีเขียวจักรพรรดิเพราะดูสวยงามน่าหลงใหลที่สุด สีเขียวคือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและร่ำรวย เชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีที่ช่วยเสริมสิริมงคล เรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา การสวมใส่เครื่องประดับหยกจึงช่วยเสริมความปัง เสริมดวงตามความเชื่อของสายมู  นอกจากนั้นยังมีความเชื่อว่าหยกช่วยคุ้มครองภัยอันตรายทำให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ และยังช่วยปรับสมดุลของร่างกาย สร้างการไหลเวียนของโลหิต

ข้อควรระวังในการซื้อหยก 

หยกเป็นอัญมณีที่ราคาสูงและหายาก โดยเฉพาะหยกสีเข้มจะมีราคาแพงกว่าหยกสีอ่อน หยกจักรพรรดิหรือหยกสีเขียวเข้มถือได้ว่ามีราคาแพงที่สุด ถ้าถามว่าหยกคุณภาพดีหรือหยกเนื้อดี เนื้อสวย มีแหล่งที่มาจากไหนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามาจากประเทศจีนแต่จริงๆ แล้วหยกที่มีราคาแพง หยกเนื้อดีมาจากประเทศพม่านั่นเอง สิ่งที่คุณต้องระวังเมื่อซื้อหยกโดยปกติหยกแท้ธรรมชาติมักจะมีตำหนิไม่ได้สวยสมบูรณ์แบบ 100% หากคุณได้หยกที่ไร้ตำหนิและยังมีสีสวยมากๆ ต้องระวังอาจเป็นหยกเลียนแบบไม่ใช่ของแท้ เคล็ดลับง่ายๆ หยกแท้หยกปลอมดูยังไง 

• หยกปลอมน้ำหนักจะเบามาก หากทำมาจากยางสนหรือยางไม้ น้ำหนักยิ่งเบา 
• หยกปลอมมีความแข็งแรงน้อยผิวหน้าเป็นเส้นๆ ถ้าเป็นทำมาจากกระจกจะมีฟองอากาศอยู่ภายในเนื้อแก้ว 
• หยกปลอมที่ทำจากหินธรรมชาติอาจมีการย้อมสีให้เหมือนหยกแท้แต่ราคาจะถูกมากๆ 

การเก็บรักษาเครื่องประดับหยกแท้ดูแลอย่างไร

เมื่อคุณมีเครื่องประดับหยกสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นแหวนหยก กำไลข้อมือหยก สร้อยคอหยก ฯลฯ แนะนำให้คุณแยกเครื่องประดับหยกออกจากอัญมณีชนิดอื่นๆ ใส่กล่องแยกมีผ้ารองหรือของนุ่มรองไว้อาจใส่ในถุงผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้หยกได้รับความเสียหายสำหรับการทำความสะอาดแนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องประดับหยกโดยเฉพาะหรือสบู่เหลวอ่อนๆ ผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นใช้แปรงขนอ่อนนุ่มทำความสะอาดตามซอกตามมุมหรือใช้เครื่องทำความสะอาดแบบ Ultrasonic จากนั้นใช้ผ้านุ่มๆ ซับแล้วผึ่งลมให้แห้ง 

หากต้องการให้หยกดูแวววาวเป็นพิเศษแนะนำให้แช่หยกในสารละลายโซเดียมสีขาวเจือจาง จากนั้นนำมาถูเบาๆ หยกจะแวววาวเปล่งประกายขึ้นมาคล้ายกับถูกเคลือบเงาแต่ทั้งนี้ต้องระวังอย่าให้หยกที่ผ่านกรรมวิธีนี้โดนความร้อนเพราะอาจทำให้โซเดียมที่เคลือบผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หยกที่มีการปรับปรุงคุณภาพด้วยกันย้อมสีหรือการเคลือบเงามักจะไม่ค่อยทนต่อความร้อนเท่าไหร่นัก

เคล็ดลับเลือกหยกอย่างไรให้ได้ดั่งใจและสาระความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับหยก หยกสีไหนราคาแพง ข้อควรระวังในการซื้อหยกการดูแลรักษาเครื่องประดับหยกรวมไปถึงเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับหยกเหล่านี้หวังว่าจะทำให้ทุกคนหายสงสัย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในหยกหรือเครื่องประดับหยกที่ร้านเพชรชมพูของเรามีเครื่องประดับหยกสวยๆ ให้คุณเลือกหลากหลายแบบหลากหลายดีไซน์รับรองว่าคุณต้องชอบแน่นอน