4C เป็นตัวกำหนดราคาเพชร ได้แก่ กะรัต (Carat) ความสะอาด (Clarity) สี (Color) และการเจียระไน (Cut) รู้หรือไม่ว่า นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชร แม้ปัจจุบันเราสามารถดูราคากลางเพชรได้จาก Rapaport ราคากลางที่ใช้อ้างอิงกันทั่วโลก  แต่เราควรรู้ไว้คร่าวๆ ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่กำหนดราคาเพชร นอกจาก 4C แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย 

7 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชร 

1.กะรัต 

น้ำหนักกะรัต (Carat) มีผลต่อราคาเพชรอย่างเห็นได้ชัด เพชร 2 กะรัต ราคาสูงกว่าเพชร 1 กะรัต หรือเพชร 0.5 ตัง ราคาสูงกว่าเพชร 0.3 ตัง นอกจากนั้นเพชรจะมีราคาสูงขึ้น ถ้าอยู่ในเกณฑ์พรีเมี่ยมไซส์ ขนาดที่คาบเกี่ยวไปทางช่วงปลายของราคา อย่างเช่น 

• เพชรน้ำหนัก  0.36-0.39 กะรัต และ 0.46-0.49 กะรัต ราคาสูงกว่าปกติ 10-20 เปอร์เซ็นต์ 
• เพชรน้ำหนัก 0.60-0.69 กะรัต และ 0.80-0.89 กะรัต ราคาสูงกว่าปกติ 7-12 เปอร์เซ็นต์
• เพชรน้ำหนัก 0.95-0.99 กะรัต และ 1.24-1.49 กะรัต ราคาสูงกว่าปกติ 5-10 เปอร์เซ็นต์

2.ความสะอาด

ความสะอาด (Clarity) หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชร เพชรมีตำหนิเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพชรที่มีตำหนิน้อยเป็นเพชรที่สะอาด งดงาม เล่นกับแสงไฟได้ดี ยิ่งเพชรมีความสะอาดมากเท่าไหร่ ราคาเพชร ก็ยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น ความสะอาดแบ่งระดับ VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2 ตามลำดับ สำหรับเพชรคุณภาพต่ำ SI อาจมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า 

3.สี

สี (Color) ส่งผลต่อราคาเพชร มีตั้งแต่เกรด D-Z คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเพชรน้ำร้อยว่าเป็นเพชรที่ขาวใสที่สุด ราคาสูง เพชรน้ำ 100 หรือเพชรเกรด D’ color เพชรไร้สี เล่นกับแสงไฟได้ดี มีความระยิบระยับสวยงาม ส่วนเพชรเกรด E’ color เพชรน้ำ 99 เกรดรองลงมา ราคาถูกกว่า หรือถ้ามีงบจำกัดอาจเลือกเป็นเพชรเกรด F’ color หรือเพชรน้ำ 98 ประหยัดงบ เพชรขาวใสมองแทบไม่เห็นความเหลือง แต่ถ้าอยากได้เพชรราคาถูกๆ เลือกเพชรเหลืองเกรดต่ำ เช่น  N’ color เพชรน้ำ 90 ไม่แนะนำและไม่ค่อยได้รับความนิยม 

4.การเจียระไน 

คุณภาพการเจียระไน (Cut) มีผลต่อราคาเพชรเช่นกัน ถ้าได้ช่างเจียระไนฝีมือดี สร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างปราณีต จะทำให้เพชรเกิดความสมมาตร การเจียระไนมีผลต่อการเล่นกับแสงไฟ เพชร 3 Excellent Cut ราคาสูงกว่าเพชร Very Good, Good, Fair และ Poor ตามลำดับ นอกจากนั้นเพชร 3EX ที่มี Hearts & Arrows จะมีราคาสูงกว่าเพชรที่ไม่มีด้วย

5.ฟลูออเรสเซนซ์

ฟลูออเรสเซนซ์ (Fluorescence) คือ การเรืองแสงของเพชร ภายใต้ UV มีผลต่อการสะท้อนโทนสีเพชร อาจทำให้เพชรมีการสะท้อนสีฟ้า เพชรที่มีฟลูออเรสเซนซ์เรียกว่าเพชรติดฟลู ราคาถูกกว่าเพชรที่ไม่ติดฟลู เพชรน้ำ 94-95 ถ้าติดฟลู ข้อดีคือเพชรดูขาวใสคล้ายกับเพชรน้ำ 96-97 ประหยัดงบได้มากกว่า 

6.อัตราแลกเปลี่ยน

ราคาเพชรในไทยอ้างอิงจากราคา USD ไม่ต่างไปจากราคาทองคำและราคาน้ำมัน ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยนจึงมีผลต่อราคาเพชรด้วย เช่น ถ้าเงินบาทอ่อนค่าลง จากเดิม 35บาท/USD เปลี่ยนเป็น 36 บาท/USD คุณต้องจ่ายเงินมากขึ้น เมื่อซื้อเพชร ทำให้ดูเหมือนว่าราคาเพชรแพงขึ้นนั่นเอง

7.  ใบเซอร์เพชร 

ใบเซอร์เพชร (Certificate) มีผลต่อราคาเพชรด้วยเพชรที่มีใบเซอร์รับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ เช่น GIA, HRD หรือ IGI ราคามักสูงกว่าเพชรที่ไม่มีใบเซอร์รับรองหรือใบเซอร์รับรองจากสถาบันอื่นๆ โดยเฉพาะสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกาอย่าง GIA ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก 

นอกจาก 4C ที่มีผลต่อราคาเพชรแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ฟลูออเรสเซนซ์ และสถาบันที่ออกใบรับรองเพชร ทั้งหมดนี้เป็นความรู้พื้นฐานที่ร้านเพชรอาจไม่เคยบอกคุณ สำหรับคนที่อยากเช็คราคากลางเพชร ก็ดูที่ Rapaport ได้เลย  มีให้ดาวน์โหลดแอปฯ เช่น RapNet The Diamond Market, iDiamond เป็นต้น