ทำความรู้จักเหลี่ยมเพชรหายาก ถ้ามีครอบครองราคาพุ่งนี้แน่นอน!

1.88 Cut

เหลี่ยมเพชรแบบ 88 Cut หรือ Eighty Eight Cut ถือเป็นเหลี่ยมหายาก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาวเอเชียที่เชื่อถือว่าเลข 8 เป็นเลขแห่งการบันดาลโชคลาภและความโชคดีในชีวิต รวมไปถึงการทำให้ชีวิตมั่งคั่ง มีบารมี และมีอำนาจ ดังนั้นจึงเกิดเป็นออกแบบลายที่จะมีการเจียระไนเพชรให้ออกมาด้วยรูปทรงแบบ 8 เหลี่ยม และมีด้านทั้งหมด 88 ด้าน จึงให้ลวดลายที่มีความโดดเด่น เปล่งประกายไปจากเพชรทรงเดิม ๆ แต่ผู้ที่จะทำเหลี่ยมนี้ได้ จะต้องมีเทคนิคการเจียระไนเพชรในระดับสูงเลยทีเดียว

2.Ashoka Cut

การทำเหลี่ยมเพชร Ashoka Cut จะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปทรงมาจากเพชรแบบ Cushion โดยจะใช้รูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีทรงโค้งมนตรงมุมเหมือนกัน เพียงแต่จะมีการเจียระไนให้เหลี่ยมเพิ่มขึ้นเป็นถึง 62 เหลี่ยม จึงทำให้เม็ดดูใหญ่มากกว่าปกติและผู้ที่จะเจียระไนเพชรในรูปแบบนี้ได้ จะต้องมีความชำนาญสูงและจะต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป โดยจะต้องเลือกเพชรดิบที่มีคุณภาพมาเจียระไนเท่านั้น โดยชื่อถูกเรียกตามภูมิภาคของ Golconda ที่พบเพชรประเภทนี้ ซึ่งมีประวัติอันเกี่ยวเนื่องกับพระเจ้าอโศกมหาราช จึงใช้ชื่อที่คล้ายคลึงกับชื่อของพระเจ้าอโศกมหาราชนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเหลี่ยมเพชรหายากมากที่สุด เพราะจะมีเพียงแค่ 10% ของเพชรดิบเท่านั้น ที่จะสามารถนำมาทำลวดลายนี้ได้

3.Royal Asscher Cut

เหลี่ยมเพชรในรูปแบบนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนมาจากเพชร Asscher หรือเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาให้มีความสวยโดดเด่นมากขึ้น เป็นผลงานการออกแบบของ Joseph Asscher ตั้งแต่ ค.ศ. 1902 จากนั้นในปี 1999 โดยทายาทในตระกูลของ Asscher ได้นำเพชรประเภทนี้กลับมาพัฒนาใหม่ เพื่อทำให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม มีการเจียระไน 58 เหลี่ยมในรูปแบบเดิมและเพิ่มขึ้นอีก 16 เหลี่ยม พร้อมทำชั้นของเหลี่ยมเพิ่มอีก 1 ชั้น ด้านบนจะเป็นทรงป้านที่จะสูงขึ้นและกลายเป็นหน้าตัดเล็กน้อย พร้อมทำให้สมมาตรของเพชรสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อหวังผลเรื่องของประกายเพชรที่จะมีมากกว่าเพชรทรงเหลี่ยมทั่วไปและให้ความใสสว่างแวววาวกว่าเพชรทรงกลม ซึ่งลวดลายนี้ถือเป็นเหลี่ยมเพชรที่หายากมาก โดยมีการถือครอง Royal Asscher Cut ไว้เพียงแค่ 75 คนบนโลก

4.Asprey Cut

Asprey Cut จะมีรูปทรงที่คล้ายกับดีไซน์ Cushion โดยจะเป็นเพชรสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ลักษณะของการเจียระไนกลับมีเอกลักษณ์มากกว่า ซึ่งผู้ที่เจียระไนลวดลายนี้ไว้เป็นช่างระดับโลกและเป็นมืออาชีพด้านการทำลวดลายเพชรอย่าง Gabi Tolkowsky ซึ่งการทำลวดลายขึ้นมาไม่ใช่แค่เพียงการทำให้เกิดความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นการศึกษาประวัติของเหลี่ยมเพชรมาก่อนแล้วจึงออกแบบเหลี่ยมที่ตรงใจ มาพร้อมการทำเหลี่ยมแบบตกหลุมรักอย่างมาก โดยเหลี่ยมเพชรที่ Gabi Tolkowsky สนใจ คือ สไตล์ Cushion ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 19 จากนั้นพัฒนาสู่การเป็นรูปทรงของ  Asprey Cut ที่จะทำขึ้นมาไม่ให้เป็นเหลี่ยมมากนัก มีขอบโค้งมน และจะมีการสลักสัญลักษณ์ตัว A ไว้ที่ขอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็น Asprey  อย่างแท้จริง นอกจากนี้ความพิเศษของเหลี่ยม Asprey คือการเจียระไนจากมือคนเท่านั้น โดยจะไม่ใช้เครื่องมือใด ๆ ทั้งสิ้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 61 เหลี่ยม และจะต้องคัดเลือกเพชรในระดับ D-G มาทำ พร้อมการมีระดับของ Diamond Clarity ที่ให้ Flawless สูงถึง VS2 และน้ำหนักของกะรัตจะต้องรวมกันให้ได้ 0.5-3 กะรัตขึ้นไป

5.Crisscut

รูปทรงการเจียระไนเหลี่ยมเพชรแบบ Crisscut ถือว่ามีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก เพราะจะมีลักษณะของเหลี่ยมที่มีความพิเศษ โดยจะเป็นการออกแบบของ Christopher Slowinski ในช่วงปี ค.ศ. 1998 ที่จะมีลักษณะของเพชรในทรง  Emerald ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดความผิดพลาดของการเจียระไนเพชร Emerald ที่กลับกลายเป็นความโดดเด่นอย่างเหลือเชื่อ เพราะมีดที่เจียระไนเฉือนเข้ากับเนื้อเพชรแล้วทำให้กลายเป็นพื้นผิวที่มีความแปลกใหม่กว่าเดิม ซึ่งจะมีเหลี่ยมทั้งหมดอยู่ที่ 77 เหลี่ยม โดยเพชรแบบ Emerald จะมีเพียง 44 เหลี่ยมเท่านั้น ซึ่งเทคนิคเหลี่ยมเพชรแบบ Crisscut  สามารถใช้ได้ทั้งกับเพชรทรง Emerald, Asscher, Cushion และทรงกลม

5 รูปทรงเหลี่ยมเพชรนี้ถือว่าหายากที่สุดในโลกและมีถือครองไว้เพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์บนโลกเท่านั้น จึงยังถือว่าเป็นเพชรที่มีราคาสูงมาก ดังนั้นถ้าคุณเกิดมีครอบครองลวดลายเหล่านี้ไว้ และมีการทำใบเซอร์เรียบร้อยแล้ว คุณควรเก็บให้ดี เพราะมูลค่าของเพชรจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน

16 November 2021 2281
add line petchchompoo