พลอยโอปอล์ถูกเรียกว่าเป็นราชินีแห่งอัญมณี ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเล่นสีและเล่นแสงไฟได้อย่างงดงาม ให้สีที่มีความแปลกใหม่หลากหลายสีรวมกัน มีความโปร่งแสง จึงทำให้แต่ละสีที่อยู่ภายในโอปอล์ต่างก็แย่งกันแสดงความโดดเด่น จนกลายมาเป็นอัญมณีทรงคุณค่าที่อยู่ภายในเครื่องประดับแล้ว จะทำให้เกิดความสวยงามและสดใสมากขึ้น ทั้งยังเป็นหนึ่งในพลอยมงคลตามความเชื่อของไทยอีกด้วย
พลอยโอปอล์คืออะไร? มาจากไหน? มูลค่าสูงหรือไม่? มีคำตอบให้ครบ!
โอปอล์เป็นอัญมณีที่ตกผลึกจากซิลิกากับน้ำ ภายในจะมีน้ำอยู่ 3-21 เปอร์เซ็นต์ตามน้ำหนักของโอปอล์แต่ละเม็ด แต่ถ้าคิดตามมาตรฐานแล้ว ควรจะอยู่ระหว่าง 6-10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในบริเวณรอยแตกของหินหลายประเภท จะพบได้มากภายในหินลิมอร์ไนต์, หินไรโอไลต์, หินบะซอลต์, หินมาร์ล และหินทราย ส่วนของการแสดงสีสันจะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย เพราะการแตกออกเป็นพลอยโอปอล์จะมีได้ทั้งสีเหลือง, สีแดง, สีน้ำตาล, สีขาว, สีส้ม หรือแม้แต่สีเขียว ทางด้านชื่อมาจากภาษาสันสกฤตในคำว่า UPALA ที่หมายถึงหินมีค่า
จากนั้นกลายมาเป็นภาษาละตินด้วยคำว่า OPALUS ที่หมายถึงการมีค่าดั่งเพชรพลอย นอกจากนี้ยังมีชื่อตามภาษากรีกว่า OPALLIOS ที่จะหมายถึงการเปลี่ยนสีได้เมื่อเกิดการกระทบแสง ดังนั้นจึงสามารถวิเคราะห์ได้ว่าพลอยโอปอล์มีอายุมายาวนานกว่า 6,000 ปี สำหรับโอปอล์ที่ถือว่ามีมูลค่าสูงในโลกจะยังคงมีอยู่ที่ประมาณ 95-97 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก พร้อมการมาจากประเทศออสเตรเลียสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติอันโดดเด่นในเรื่องของแสงภายในเนื้อโอปอล์หรือ Opalescence ที่จะเป็นปรากฏการณ์แห่งแสงภายใน เมื่อชนกับอนุภาคขนาดเล็กของเนื้อโอปอล์แล้ว จะกลายเป็นการเล่นแสงแบบ 4 ทิศและแสดงออกมาเป็นสีรุ้ง ส่วนการเรียงสีนั้นจะขึ้นอยู่กับเนื้อของโอปอล์แต่ละชนิด สำหรับประเภททั่วไปจะที่ถูกเรียกว่า potch ถือเป็นอัญมณีราคาถูกที่สุด เพราะไม่มีคุณสมบัติในการเล่นแสง แต่ถ้ามีการตรวจสอบจะปรากฏออกมาเป็นเพียงแค่สีน้ำนมเท่านั้น
ตามความเชื่อส่วนบุคคลของประเทศไทย อัญมณีโอปอล์จะถูกแทนที่ด้วยความหมายของการเป็นอัญมณีแห่งความรักบริสุทธิ์, ความสมหวัง, ความสมปรารถนา และการบอกเหตุล่วงหน้า ช่วยส่งเสริมในด้านความสุข, ความสำเร็จ, สายรุ้งที่ปรากฏยิ่งมีความสมบูรณ์มากเท่าไหร่ จะยิ่งหมายถึงชีวิตที่ยอดเยี่ยม, ช่วยป้องกันภัยอันตรายจากศัตรู พร้อมการเป็นพลอยบำบัดสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับหรือรู้สึกจิตใจสับสน พร้อมความเชื่อที่ว่าโอปอล์คืออัญมณีที่มาจากสวรรค์ เพราะจะมีลายค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมการเป็นอัญมณีนำโชคของเดือนตุลาคมและปีกุน
3 เคล็ดลับการเลือกพลอยโอปอล์คุณภาพ
ผู้ที่สนใจจะเลือกพลอยโอปอล์มาเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่จะสร้างความสดใส เสริมบุคลิกที่ดี และช่วยนำโชค ขอแนะนำ 3 เคล็ดลับการเลือกที่จะทำให้คุณได้โอปอล์คุณภาพ ดังนี้
1.เลือกจากชนิดโอปอล์
ชนิดของพลอยโอปอล์จะมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ดังนั้นคุณจึงควรเลือกสีหรือลายในแบบที่ต้องการ สำหรับตลาดอัญมณีแล้วโอปอล์ดำจะถือว่ามีราคาสูงกว่าโอปอล์ขาว และโอปอล์ในประเภทอื่น ๆ จะต้องมีลักษณะของการโปร่งใสไปจนถึงโปร่งแสง มีความสดของสีและโทนสีจะต้องออกเป็นสว่างปานกลาง สามารถเล่นสีในแสงไฟได้ดี กระจายสีทั่วทั้งก้อนได้ไม่ต่ำกว่า 40% ของเนื้อโอปอล์ทั้งหมด ถ้ามีการเล่นสีออกมาเป็นสีแดงจะถือว่ามีคุณภาพมากและหาได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าแสดงสีเป็นสีม่วง, สีเหลือง, สีส้ม, สีฟ้า, สีเขียว หรือสีน้ำเงิน จะถือว่าเป็นสีที่หายากรองลงมาและราคาจะค่อนข้างสูงเช่นกัน
2.เลือกเนื้อโอปอล์
เนื้อของโอปอล์ที่มีคุณภาพ ควรเป็นเนื้อที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งที่มีขายอยู่ทั่วไปมักจะเป็นการสอดไส้ ด้านหน้าจะเป็นโอปอล์แท้และด้านหลังเป็นอัญมณีประเภทอื่นผสมกัน เพื่อทำให้เกิดความแข็งแรงและมีน้ำหนักที่มากขึ้น ทั้งที่จริงแล้วโอปอล์ตามธรรมชาติจะมีเนื้อเป็นแผ่นบางและจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ ดังนั้นให้สังเกตบริเวณชั้นรอยต่อที่จะมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะฟองอากาศที่จะอยู่ตามแนวระนาบของรอยต่อ เนื่องมาจากโอปอล์แท้เนื้อจะเนียนเรียบ ไม่มีฟองอากาศภายใน
3.เลือกจากการเจียระไน
การเจียระไนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะทำให้ได้รู้ว่าโอปอล์ที่ซื้อมานั้นมีคุณภาพหรือไม่ เพราะเมื่อเจียระไนแล้ว จะต้องสามารถเล่นสีออกมาได้หลายสี ให้ประกายแทบจะคล้ายรุ้งบนเนื้อ เมื่อนำไปส่องแสงไฟแล้ว จะต้องให้ความสว่างที่ดี ไม่มีความมัวหมอง มีความสะอาด ไม่มีรอยแตกหรือรอยขีดข่วนใด ๆ
เรื่องสำคัญที่คุณควรใส่ใจให้มากที่สุด คือ การเลือกโอปอล์แท้เท่านั้น เพราะในตลาดเครื่องประดับ มีการใช้เป็นโอปอล์สังเคราะห์ ที่ถูกผลิตขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 เพื่อนำไปใช้ในด้านงานเครื่องประดับ เพราะโอปอล์แท้จะมีเนื้อไม่แข็งแรงมาก แต่โอปอล์เทียมจะมีความทนทานมากกว่า ที่สำคัญคือมีการสังเคราะห์จนคล้ายจริงและแทบจะตรวจสอบได้ยาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะทำมาจากแก้วและพลาสติก ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อกับร้านที่ไว้วางใจได้หรือนำโอปอล์ที่คุณสงสัย ไปตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ถูกหลอกขายง่าย ๆ