เจาะลึกเพชรแต่ละเชป จะเป็นยังไงบ้างมาดูกัน!
เพชรจะสวยงามและมีมูลค่าก็ต่อเมื่อมันผ่านการเจียระไนมาเป็นอย่างดีและนำไปขึ้นเรือนเป็นเครื่องประดับต่างๆ แต่ในความเป็นจริงเพชรก็คือเพชรวันยังค่ำมันมีความสวยงามและมีมูลค่าในตัวเองเสมอ แม้จะไม่ได้ถูกนำไปขึ้นเรือนเป็นเครื่องประดับต่างๆ ก็ตาม การเจียระไนเพชรสามารถเจียระไนได้ด้วยมือหรือใช้เครื่องจักร เพชรเจียระไนได้หลายรูปทรงวันนี้เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกเพชรแต่ละเชฟมาดูกันว่ารูปทรงไหนได้รับความนิยมสูง
3.Radiant Shape
เพชรรูปทรงนี้คล้ายกับมรกตแต่ถูกเจียระไนให้มีหน้าตัดกว้างขึ้น ส่งผลให้มีการเปล่งประกายวิบวับแวววาว Radiant Shape สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และความเป็นอิสระ นอกจากนั้นยังสื่อถึงความสามารถความเฉลียวฉลาดอีกด้วย
1. Round Shape
เพชรเหลี่ยมเกสรเป็นรูปแบบดั้งเดิมในการเจียระไนมีความคลาสสิคและได้รับความนิยมตลอดกาล ด้านล่างมีลักษณะแหลมเป็นกรวยด้านบนปั้นใหญ่เกือบเป็นครึ่งวงกลม เพชรรูปทรงนี้เป็นประกายสะท้อนแสงเล่นกับแสงไฟได้ดีมาก Round Shape สื่อถึงความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดและความสมบูรณ์แบบ
แม้ว่าเพชรทรงกลมจะเล่นกับแสงไฟได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะสวยเหมือนกันหมดทุกเม็ด การเจียระไนเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัย 4C ที่ใช้แบ่งเกรดเพชร ยังมีเรื่องของสี ความสะอาดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แนะนำเลือกเพชรทรงกลมที่มีใบเซอร์ GIA หรือใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เลือกเพชรน้ำร้อย หรือเกรด D-F Color มีการเจียระไรอย่างปราณีตได้สัดส่วนเป็นเพชรในระดับ 3 Excellence
4.Marquise Shape
เพชรรูปทรงมาร์คีส์ ลักษณะคล้ายรูปทรงของเมล็ดข้าวสาร การเจียระไนต้องใช้ความระมัดระวังและพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพชรรูปทรงนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสรับสั่งให้ช่างเจียระไนตามรูปทรงปากนางสนมที่พระองค์ทรงโปรดปราน Marquise Shape สื่อถึงความงดงาม ความทะนุถนอม และยังสื่อถึงสติปัญญาความเชื่อมั่นและความกล้าหาญด้วย
2.Heart Shape
เพชรรูปหัวใจ จัดอยู่ในเพชรรูปแบบแฟนซีคัต การเจียระไนเพชรรูปหัวใจต้องอาศัยประสบการณ์และฝีมือความชำนาญเฉพาะด้านนอกจากนั้นจะต้องเลือกเพชรเม็ดที่เหมาะสมสำหรับการเจียระไนด้วยถ้ามุมหักอาจทำให้เพชรร้าวและมีตำหนิได้ง่าย Heart Shape สื่อถึงความรักความปรารถนาและความโรแมนติก
เพชรรูปทรงหัวใจตัวแทนของความรักและความโรแมนติก การเลือกซื้อ แนะนำเพชรทรงหัวใจที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไป เพื่อให้มองเห็นรูปทรงหัวใจที่ชัดขึ้น เมื่อประดับบนตัวเรือน เช่น แหวนเพชรทรงหัวใจจะทำให้เพชรดูโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิมหรือถ้ามีงบน้อยอาจเลือกเทคนิคฝังแบบหนามเตยช่วยเน้นส่วนขอบบนของหัวใจให้เด่นชัดมากขึ้น
5.Oval Shape
มาต่อกันที่เพชรทรงไข่ เป็นอีกหนึ่งรูปทรงที่ได้รับความนิยมไม่ต่างจากเพชรทรงกลม ลักษณะคล้ายกันแต่หน้ากว้างยาวกว่าทำให้เพชรรูปทรงนี้ดูขนาดใหญ่ Oval Shape สื่อถึงความสวยงาม ความมีศิลปะ เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่มีความคิดแบบใหม่หรือกลุ่มคนที่มีความเป็นสากล
สำหรับเพชรทรงรี ลักษณะคล้ายกับเพชรทรงกลมแต่มีหน้ากว้างที่ยาวกว่า แม้มีน้ำหนักกะรัตเท่ากันแต่เพชรทรงนี้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่กว่า เคล็ดลับการซื้อคล้ายกับเพชรทรงหยดน้ำซึ่งจะมีเงาหูกระต่ายต้องสังเกตดูว่าเงาของหูกระต่ายเข้มมากน้อยเพียงใด
6.Princess Shape
เพชรปริ้นเซสหรือเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยม เพชรรูปทรงนี้ได้รับความนิยมรองลงมาจากเพชรทรงกลมมันสามารถเล่นกับแสงไฟได้ดี หากคุณโชคดีอาจได้พบเห็นเพชรปริ้นเซสรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งหายากมาก เพชรรูปทรงนี้สื่อถึงความกล้าหาญ ความแข็งแกร่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความน่าเชื่อถือ
เคล็ดลับการเลือกเพชรทรงปริ๊นเซส หรือเพชรทรงสี่เหลี่ยมปลายแหลมทั้งสี่มุม ต้องเลือกเพชรที่ฝังลงตัวเรือนด้วยหนามเตยทั้ง 4 ด้าน เนื่องจากเพชรทรงนี้มีโอกาสเกิดรอยบิ่นได้สูงที่บริเวณมุมทั้งสี่มุม นอกจากนั้นการฝังแบบหนามเตยยังช่วยซ่อนตำหนิของเพชรได้อีกด้วย
7. Asscher Shape
เพชรแอชเชอร์เริ่มเจียระไนครั้งแรกที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ปี ค.ศ. 1902 มันมีลักษณะคล้ายกับเอมเมอรัลคัทแต่มีหน้ากว้างเล็กกว่าแถมยังมีลูกเล่นขั้นบันไดที่ลึกกว่าด้วย ขอบเพชรถูกเจียระไนให้ดูมนช่วยเพิ่มเสน่ห์ความเก๋ไก๋ทำให้ดูดีและรู้สึกมั่นคง Asscher Shape จึงสื่อความหมายถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งนั่นเอง
8. Pear Shape
เพชรรูปทรงหยดน้ำได้รับความนิยมเช่นกันมันมีความสวยงามแบบคลาสสิคได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ รูปทรงกลมมนที่ประกบกันแบบลงตัวปลายแหลมคล้ายหยดน้ำ เพชรทรงหยดน้ำคือสัญลักษณ์ของความรักความมุ่งมั่น มั่นคงและความแน่นอน
มาต่อกันที่เพชรทรงหยดน้ำ เพชรทรงกลมปลายแหลม ลักษณะคล้ายหยดน้ำ เพชรนี้ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นรูปเงาตรงส่วนกลางของหน้าเพชรเป็นรูปหูกระต่าย ต้องดูว่าเงานั้นเหมาะสมมากเพียงใด เงาต้องไม่ชัดเกินไปหรือจางเกินไป การเลือกซื้อเราแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด
9. Emerald Shape
เพชรเอมเมอรัลหรือเพชรที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมใช้เทคนิคการเจียระไนมรกต มีการเจียระไนเหมือนขั้นบันได จุดเด่นคือพื้นที่หน้าเพชรกว้างกว่าเหลี่ยมอื่นสามารถรับแสงไฟได้ดีและสะท้อนไปยังส่วนเส้นตรงภายใน เพชร Emerald Shape สื่อถึงความสงบความเรียบหรูและสุขุม
เพชรทรงเอมเมอรัลหรือทรงสี่เหลี่ยม โดดเด่นด้วยการเจียระไนแบบขั้นบันไดทำให้เพชรรับแสงได้ดี สะท้อนเป็นเส้นตรงภายในสวยงาม เคล็ดลับการเลือกเพชรรูปทรงนี้ เนื่องจากเพชรทรงนี้มีหน้ากว้าง ถ้ามีตำหนิจะเห็นได้ชัดเจน ดังนั้น ต้องใส่ใจความสะอาดเป็นพิเศษ เลือกไม่ต่ำกว่า VS2
10. Cushion Shape
เพชรคุชชั่นคัท ถูกเจียระไนให้เป็นสี่เหลี่ยมขอบมนคล้ายหมอนอิง เพชรรูปทรงนี้เล่นกับแสงไฟได้ดีมีความระยิบระยับเนื่องจากส่วนโค้งงอที่ผ่านการเจียระไนมาเป็นอย่างดี เพชรคุชชั่นคัทแตกต่างจากรูปทรงอื่นเพราะมีตัวเลือกย่อยให้เลือกหลายแบบ เช่นแบบประยุกต์ แบบปกติ แบบโมเดิร์น เป็นต้น Cushion Shape สื่อถึงความเชื่อมั่นในตัวเองสูงและการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเพชรทั้ง 10 เชป เพชรแต่ละเชปสื่อถึงความหมายที่แตกต่างกันออกไปและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน การเจียระไนเพชรแต่ละเชปให้ออกมาสวยงามโดดเด่นขึ้นอยู่ที่ช่างเจียระไน ถ้าได้ช่างเจียระไนฝีมือดีมีประสบการณ์เพชรที่ได้จะสวยงามเล่นกับแสงไฟได้ดีมาก