เทคนิคการดูพลอยแท้ ไม่ให้โดนหลอก
พลอยคืออัญมณีที่มีสีสันหลากหลาย ให้ความสวยงามที่โดดเด่นและเนื้อสัมผัสมีความคล้ายคลึงกับเพชร แต่จะแตกยอดออกเป็นประเภทต่าง ๆ ที่จะให้สีสันแตกต่างกันออกไป ซึ่งพลอยแท้นั้นราคาจะค่อนข้างสูง จึงก่อกำเนิดเป็นพลอยปลอมราคาถูกในท้องตลาด เพื่อนำมาตกแต่งเครื่องประดับและเสื้อผ้าแฟชั่นยุคนี้กันมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณต้องการพลอยแท้เพื่อนำมาทำเครื่องประดับตามแบบที่คุณต้องการ ควรใช้วิธีการดูพลอยดังต่อไปนี้
รวมเทคนิคดูพลอยแท้หรือเทียม เพื่อไม่ให้เสียเปรียบทางร้าน
ถ้าคุณไม่อยากเสียรู้ร้านขายพลอยในเรื่องการซื้อ-ขายเม็ดพลอยแท้หรือเทียม เพราะต้องยอมรับว่าในตลาดอัญมณีและเครื่องประดับทั่วไป จะมีพลอยปลอมถูกผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพลอยแท้จึงกลายเป็นอัญมณีหายากและมีผู้ถูกหลอกขายกันมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำเทคนิคการดูพลอยแท้หรือเทียม เพื่อไม่ให้เสียเปรียบทางร้านและทำให้คุณมั่นใจต่อการซื้อ-ขายเครื่องประดับที่มีพลอยแท้ผสมอยู่ได้มากขึ้น คือ
1.สีของพลอย
สีสันของพลอยแท้จะไม่ถึงกับฉูดฉาด แต่จะมีความเข้มตามสีของธรรมชาติ ทั้งยังมีหลายเฉดสีปะปนกันและพลอยที่มาจากธรรมชาติ ส่วนมากจะออกสีขุ่นก่อนและพลอยบางชิ้นอาจมาด้วยสีแบบทึบแสง ดังนั้นถ้าคุณเลือกซื้อพลอยตั้งแต่ยังเป็นเพียงแค่พลอยดิบที่ไม่ได้ผ่านการเจียระไนและยังไม่ผ่านกระบวนการความร้อนมาก่อน ให้คุณรู้ไว้เลยว่าแสงของพลอยแท้จะไม่สวยเท่ากับตอนที่เจียระไนแล้ว ดังเช่นพลอยทับทิมที่จะออกสีแดง แต่จะไม่ใช่แดงสว่างหรือสดใส เพราะทับทิมแท้จะต้องออกสีแดงเลือดนก พร้อมการมีสีแดงแบบหลายเฉดซ้อนอยู่ภายในทับทิมเม็ดนั้น ๆ อีกด้วย
2.ความสะอาด
ความสะอาดของพลอยแท้จะมีมาไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงอาจจะมีจุดดำที่อยู่ภายในพลอยได้เสมอ ซึ่งความสกปรกนี้สามารถเห็นได้ทั้งภายในและภายนอกด้วยตาเปล่า เช่น อาจจะมีรอยแตกเล็กน้อยหรือมีรอยสกปรกอยู่ภายในพลอย แต่ถ้าเป็นพลอยปลอมจะสว่างสดใสและแทบไม่มีความสกปรกใด ๆ เจือปน หรืออาจจะเป็นเพียงแค่ฟองอากาศที่เกิดขึ้นจากการสังเคราะห์ ซึ่งพลอยปลอมในตลาดนั้นจะทำมาจากหลายวัสดุสังเคราะห์และมีคุณสมบัติทางฟิสิกส์กับเคมี ดังนั้นการผลิตขึ้นมาจึงจะค่อนข้างออกมาสะอาดมาก แต่ถ้ามีการทำพลอยขึ้นมาให้คล้ายคลึงกับของจริง แม้แต่เรื่องความสะอาดก็คล้ายกันมาก คุณอาจจะต้องสังเกตที่ตำหนิภายในของพลอยที่จะมีการอธิบายรายละเอียดไว้ภายในหัวข้อถัดไป
3.ตำหนิตามธรรมชาติ
ตำหนิตามธรรมชาติของพลอยจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับตำแหน่งเพชร โดยจะอยู่ภายใน จึงจำเป็นต้องใช้กล้องส่องขยายจุดตำหนิต่าง ๆ ซึ่งตำหนิภายในของพลอยแท้จากธรรมชาติจะค่อนข้างมีเอกลักษณ์และมีหลายรูปแบบด้วยกัน บางลวดลายตำหนิ พลอยปลอมจะไม่สามารถเลียนแบบได้ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการดูพลอยแท้ที่จะให้ความมั่นใจได้ดี โดยตำหนินั้นจะมีตำหนิเส้นเข็มที่เมื่อส่องแล้วจะออกมาเป็นเส้นเข็มสีรุ้งทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่, ตำหนิรูปรอยนิ้วมือหรือเรียกว่าฟิงเกอร์ปริ้น ที่จะมีลักษณะคล้ายลายนิ้วมือของมนุษย์อยู่ภายใน และมีการตกผลึกพร้อมด้วยการเกิดแถบสีหักมุมอยู่ภายในอีกด้วย
4.น้ำหนัก
น้ำหนักของพลอยเม็ดใหญ่ที่ถือว่ามีราคาแพงที่สุดจะอยู่ที่ 1 กะรัต หรือประมาณ 200 มิลลิกรัม และอาจจะมีน้ำหนักที่เบากว่านี้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและความสมบูรณ์ของเม็ดพลอยเป็นหลัก แต่น้ำหนักก็จะลดลงไปจากเดิมไม่มาก ดังนั้นถ้าคุณเจอพลอยที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ หรืออาจจะหนักเกินกว่า 200 มิลลิกรัม ให้คุณตีไปก่อนเลยว่าอาจจะเป็นพลอยปลอมและใช้วิธีการตรวจสอบตามทั้ง 3 ข้อด้านบนร่วมด้วย เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจในการซื้อ-ขายที่มากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการได้พลอยมาทำเครื่องประดับหรือผสมผสานสีสันให้เข้ากับเครื่องประดับเพชรของคุณ เพิ่มความโดดเด่นและเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ แต่ไม่รู้ว่าการดูพลอยแท้และพลอยปลอมต้องดูอย่างไร? คุณสามารถศึกษาได้จากภายในบทความนี้ แล้วใช้ทั้ง 4 เทคนิคไปร่วมในการดูพลอยแท้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องโดนหลอกขายจากทางร้านหรือโดนร้านหลอกซื้อแบบกดราคาอีกต่อไป
รู้ได้อย่างไรพลอยเม็ดไหนสวย
หลังจากที่ทุกคนได้รู้เทคนิคการดูพลอยแท้ไปแล้ว โดยหลักๆ คือให้ดูที่สีของพลอย ความสะอาด ตำหนิตามธรรมชาติและน้ำหนัก แต่อย่าลืมว่าแม้จะเป็นพลอยแท้อาจไม่ใช่พลอยเนื้อดีเสมอไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพลอยเม็ดไหนสวย เรามีเทคนิคการดูพลอยเนื้อดีมาฝาก หลักการดูพลอยเนื้อดีให้ใช้หลัก 4C ในการพิจารณาไม่แตกต่างไปจากเพชรเลย ซึ่งประกอบไปด้วยสีความสะอาด คุณภาพการเจียระไน และน้ำหนักกะรัต
1.Color
สี/น้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญ ส่งผลต่อคุณภาพหรือความสวยงามของพลอย สีของพลอยส่งผลต่อการเล่นกับแสงไฟ การดูว่าพลอยเม็ดไหนสวยพลอยเนื้อดีให้สังเกตที่สีเป็นหลัก พลอยควรมีสีเข้มหรือมีสีชัดเจน พลอยสีซีดมักเป็นพลอยที่ขายในราคาถูกไม่เป็นที่นิยม แต่ตรงจุดนี้ก็ให้ระวังด้วยเพราะพลอยที่มีสีสดเกินไปอาจไม่ใช่พลอยแท้ก็เป็นได้
2.Clarity
พลอยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ได้เพอร์เฟคหรือสมบูรณ์แบบมักมีตำหนิในตัว เช่นเดียวกับเพชร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมรกตที่มีตำหนิมากกว่าอัญมณีอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน อัญมณีที่มีตำหนิน้อยนั้นหายากและราคามักสูงมากๆ คุณสามารถเลือกพลอยที่มีตำหนิได้แต่ตำหนิเหล่านั้นต้องไม่ส่งผลต่อความแข็งแรงของอัญมณียก ตัวอย่างเช่น หากพลอยมีตำหนิมากเกินไปที่บริเวณขอบหรือมีรอยร้าวเยอะ เราไม่แนะนำให้ซื้อและไม่เหมาะกับการลงทุนอีกด้วย
3. Cut
พลอยเนื้อดีดูอย่างไรให้พิจารณาที่คุณภาพของการเจียระไนเช่นเดียวกันกับการเจียระไนเพชร ซึ่งต้องพิจารณาหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ความกว้าง ความลึกของพลอยที่ผ่านการเจียระไนมาแล้ว รวมถึงหน้าตัดที่สมมาตร หากเจียระไนลึกไปแสงที่ตกกระทบอาจสะท้อนออกไปทางด้านข้างทำให้พลอยหมองขาดออร่า ในทางตรงกันข้ามถ้าหากเจียระไนตื้นไปแสงจะหายไปยังส่วนก้นของพลอยทำให้พลอยดูไม่เปล่งประกาย
4.Carats
การเลือกซื้อพลอยคุณภาพดีนั้น น้ำหนักกะรัตเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญน้อยที่สุด แม้ว่าพลอยที่มีขนาดใหญ่จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้นแต่ก็ไม่เสมอไป พลอยที่มีน้ำหนักขนาดเท่ากันราคาอาจไม่เท่ากันก็ได้เนื่องจากมีคุณภาพนั้นแตกต่างกันออกไปหรือการที่พลอยมีขนาดใหญ่น้ำหนักกะรัตมากพลอยเม็ดนั้นราคาอาจไม่สูง เมื่อเทียบกับพลอยที่มีน้ำหนักกะรัตน้อยกว่าแต่คุณภาพดีกว่าทั้งในเรื่องของคุณภาพการเจียระไน สี และความสะอาด
เทคนิคการดูพลอยแท้ดูยังไงไม่ให้โดนหลอก หวังว่าจะมีประโยชน์รวมไปถึงการเลือกพลอยแท้เนื้อดี เลือกอย่างไรต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง อย่าลืมนำเอาเทคนิคดีๆ เหล่านี้ไปใช้ เอาเป็นว่าถ้าอยากได้พลอยแท้คุณภาพดีก็ต้องไปที่ร้านจำหน่ายเครื่องประดับพลอยแท้ที่เชื่อถือได้ อย่างร้านเพชรชมพูของเรา จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีเพชรพลอย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แถมยังมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ให้คุณเป็นเจ้าของเครื่องประดับอันล้ำค่าในราคาสุดคุ้ม