การสวมใส่แหวนนอกจากจะเป็นการทำให้เห็นถึงรสนิยมและสไตล์ของแฟชั่นแล้ว ผู้ที่เลือกแหวนมาตกแต่งนิ้วหลายคนยังใส่เพื่อการเสริมดวงและเสริมบุคลิก เสริมเสน่ห์ให้ดูมีความโดดเด่นน่ามอง พร้อมให้ความเป็นสิริมงคลในหลายด้าน ทั้งด้านการเงิน, การงาน, มีผู้ใหญ่เอ็นดู และความปลอดภัยในชีวิต ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการสวมใส่แหวน ที่ไม่ว่าจะเป็นแหวนรูปแบบใดก็ตาม จึงควรรู้ทริคของการใส่แหวนเพื่อเสริมดวงและควรรู้ว่าการสวมใส่แหวนแต่ละนิ้วจะให้ความหมายในด้านใดบ้าง
ใส่แหวนอย่างไรให้เสริมดวง มาดูทริคเหล่านี้!
ถ้าพูดถึงความเชื่อที่มีต่อกันตั้งแต่ยุคโบราณมาจนถึงปัจจุบันด้านเครื่องประดับ โดยเฉพาะการสวมใส่แหวน จะมีการพูดถึงความหมายของการใส่แหวนแต่ละนิ้วที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณควรเลือกแหวนรูปแบบใด ประเภทไหน มาสวมใส่ทั้ง 5 นิ้วของคุณ ควรเน้นใส่ที่นิ้วใดเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้รับความเฮงและโชคดีตามที่คุณต้องการ สำหรับความหมายของแต่ละนิ้วที่เป็นความเชื่อด้านการเสริมดวง คือ
- นิ้วโป้งจะเป็นการเสริมสร้างบารมีและการทำให้ผู้คนรู้สึกถูกชะตา ได้รับการอุปถัมภ์ที่ดี
- นิ้วชี้เสริมด้านเมตตามหานิยม สร้างเสน่ห์ชวนมอง ทำให้มีคนรักใคร่เอ็นดู
- นิ้วกลางด้านขวาจะเกี่ยวข้องกับการงานและด้านซ้ายจะเกี่ยวข้องกับการเงิน
- นิ้วนางด้านขวาจะเกี่ยวข้องกับความรัก การเสริมดวงด้านการแต่งงาน ส่วนด้านซ้ายจะเป็นความรักที่มีความมั่นคง
- นิ้วก้อยจะหมายถึงการพูดคุย การเจรจา การตกลงด้านธุรกิจและความน่าเชื่อถือ
เทคนิคของการใส่แหวนเสริมดวงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามความเชื่อโบราณและหลักโหราศาสตร์ คือ เมื่อสวมใส่แหวนแล้วควรจะต้องให้อยู่ติดนิ้วขั้นต่ำ 14 วันขึ้นไป เพื่อทำให้เสริมดวงด้านต่าง ๆ ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
ข้อควรระวังของคนสวมแหวนเสริมดวง
ถ้าคุณต้องการสวมแหวนอัญมณีที่นอกเหนือจากการประดับให้นิ้วดูสวยงาม แต่ต้องการเสริมดวงในทุก ๆ ด้าน เพื่อทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองและสร้างความรู้สึกมั่นใจต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตมากขึ้น มีข้อควรระวังของการสวมแหวนเสริมดวงที่คุณควรรู้ คือ
1.ไม่ถอดแหวนให้ผู้อื่น
เมื่อคุณใส่แหวนติดนิ้วเป็นประจำแล้ว ไม่ควรให้ใครมาถอดแหวนของคุณออกเด็ดขาด ไม่ควรนำแหวนไปให้ต่อกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ยังคงสวมแหวนอยู่ ถ้ามีคนมาขอแหวนของคุณเพื่อนำไปลอง ไม่ควรถอดให้ เพราะมีความเชื่อว่าแหวนจะสัมพันธ์ต่อเจ้าของหรือผู้ที่สวมใส่อยู่เท่านั้น ถ้าคุณถอดแล้วนำไปใส่กับนิ้วของคนอื่น จะทำให้ความเป็นสิริมงคลและการเสริมดวงด้านต่าง ๆ ขาดลงทันที
2.การใส่แหวนซ้อนกัน
หนึ่งในความเชื่อของผู้สวมแหวนเพื่อเสริมดวง คือ การไม่ใส่แหวนซ้อนทับกัน 2 วงภายใน 1 นิ้ว โดยเฉพาะนิ้วนางทั้งด้านซ้ายและขวา เพราะจะเปรียบเสมือนการมีรักซ้อน ซึ่งความเชื่อนี้ถือว่าเป็นความเชื่อโบราณ แต่ในยุคปัจจุบันการใส่แหวนซ้อนกัน 2 วง กลับให้ความหมายของการเสริมดวงที่จะทำให้เกิดพลังด้านดีมากขึ้น แต่จะต้องเป็นแหวนอัญมณีที่มีสีสันถูกโฉลกกับเจ้าของแหวนเท่านั้น ถ้าอยู่ที่นิ้วใดก็ตามจะช่วยเสริมให้ดีขึ้น เช่น ถ้าอยู่ที่นิ้วนางจะเป็นการทำให้ความรักแน่นแฟ้นมากกว่าเดิม เป็นต้น
3.อย่าเลือกสีไม่ถูกโฉลก
อีกหนึ่งเรื่องที่ควรระมัดระวังของผู้ที่ต้องการใส่แหวนเสริมดวง คือ การเลือกสีของอัญมณีตกแต่งแหวนให้เหมาะสมหรือถูกโฉลกกับวันเกิด, เดือนเกิด และปีเกิดของคุณเอง ถ้าต้องการความง่ายให้เลือกอัญมณีที่เหมาะสมต่อวันเกิด เพื่อเสริมดวงในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งตามความเชื่อโบราณที่มีต่อกันมา เชื่อว่าถ้าเลือกสีไม่ถูกโฉลกอาจทำให้ชีวิตต้องติดขัด เจออุปสรรคร้ายแรง และเจอปัญหาต่าง ๆ จนอาจทำให้การใช้ชีวิตไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เช่น คนเกิดวันจันทร์ควรเลือกสีอัญมณีประจำวันเกิดเป็นสีเหลือง, สีเขียว และสีน้ำเงิน ส่วนคนเกิดวันอังคารควรเลือกอัญมณีประจำวันเกิดเป็นสีชมพูและสีเทา เป็นต้น
ถ้าคุณต้องการสวมใส่แหวนอย่างมั่นใจ ได้ทั้งความสวยงาม ความโดดเด่น ทำให้เรียวนิ้วของคุณดูน่ามอง พร้อมไปด้วยการเสริมดวงในด้านต่าง ๆ อย่างมั่นใจ ขอแนะนำใส่แหวนที่กล่าวไว้ข้างต้นและศึกษาข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณสามารถสวมใส่แหวนแล้วมีเสน่ห์ชวนมอง ไปพร้อมกับการเสริมดวงดีที่อาจจะทำให้ชีวิตของคุณรุ่งเรืองมากขึ้นในอนาคต
สวมแหวนเพชรเสริมดวงตามวันเกิด
สวมแหวนนิ้วไหนดี สวมแหวนแต่ละนิ้วมีจุดเด่นอย่างไร ช่วยเสริมดวงด้านใดบ้าง รวมถึงข้อควรระวังในการสวมแหวนเสริมดวงด้วย หลังจากที่ทุกคนได้รู้กันไปแล้วทีนี้มาถึงคนที่เชื่อเรื่องการสวมแหวนเพชรเสริมดวงตามวันเกิดกันบ้าง
วันอาทิตย์
คนเกิดวันอาทิตย์แนะนำแหวนเกลี้ยงไม่มีลวดลายอาจใช้ตัวเรือนเป็นทองคำหรือทองคำขาว คนเกิดวันอาทิตย์มีภาวะความเป็นผู้นำสูง บางครั้งใจร้อน วู่วามเกินไป แนะนำให้สวมแหวนเสริมดวงที่นิ้วมือข้างซ้ายช่วยให้สุขุมนุ่มลึกช่วยในเรื่องการตัดสินใจได้ดีเลยทีเดียว
วันจันทร์
วันจันทร์เลือกแหวนเพชรบางๆ หัวแหวนเล็ก คนเกิดวันจันทร์มีศิลปะในการพูดคุยเจรจาต่อรองแต่เป็นคนอ่อนไหวง่าย แนะนำสวมใส่แหวนที่นิ้วมือข้างซ้าย สวมนิ้วกลางเพื่อควบคุมจิตใจให้นิ่งสงบ สวมนิ้วนางเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์และสวมนิ้วก้อยช่วยเสริมทักษะในการสื่อสาร ในกรณีที่ต้องการเสริมดวงเรื่องความรักให้ประดับเพชรหรือไข่มุกเพิ่มลงไป
วันอังคาร
วันอังคารแนะนำเลือกแหวนเพชรที่หัวแหวนมีขนาดใหญ่ยิ่งใส่แหวนเพชรแบบ Pink Diamond ยิ่งปัง สวมใส่แหวนเพชรที่นิ้วมือข้างซ้าย นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้ ช่วยเสริมดวงชะตาทำให้มีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง หลีกเลี่ยงการสวมแหวนพี่นิ้วก้อยเพราะจะให้การพูดจาแรงขึ้นกว่าเดิม
วันพุธ
สวมใส่แหวนเพชรขนาดกลางๆ เลือกให้พอดีกับนิ้วมือแนะนำสวมแหวนเพชรที่นิ้วมือข้างซ้าย นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางช่วยเสริมดวงในหน้าที่การงาน คนเกิดวันพุธมีความรอบรู้และสุขุมแต่อาจขาดความกล้าในการตัดสินใจ สำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืนแนะนำให้เลือกอัญมณีสีเขียว เช่นหยกหรือมรกต ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความกล้าในการตัดสินใจมากขึ้น
วันพฤหัสบดี
วันพฤหัสบดีควรซื้อแหวนที่ดูใหญ่และหนา เน้นโทนสีเหลืองหรือสีทองอาจเลือกตัวเรือนที่เป็นทองคำช่วยเสริมดวงในด้านการเงิน การงานและความร่ำรวย เสริมดวงในด้านโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา คนเกิดวันพุธเป็นคนที่ซื่อสัตย์อดทนมีความรับผิดชอบสูงหากใส่แหวนเสริมดวงที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางจะช่วยเสริมบารมีได้
วันศุกร์
คนเกิดวันศุกร์มีจินตนาการสูงสามารถสวมแหวนได้ทุกนิ้วและยังเป็นคนที่โดดเด่นในด้านความรักมีเสน่ห์ อย่างไรก็ตามคนเกิดวันศุกร์เป็นคนที่ยึดอารมณ์เป็นใหญ่บางไม่ฟังใครมีอารมณ์รุนแรง หากสวมแหวนเพชรที่นิ้วกลางจะช่วยดึงสติกลับมาได้ช่วยระงับอารมณ์และยังเป็นการช่วยเสริมดวงด้านการเงินการงานและความรักอีกด้วย
วันเสาร์
ควรสวมแหวนที่มีขนาดใหญ่เพื่อรับพลังจากดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวประจำวันเกิด คนเกิดวันเสาร์เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงบางทีดูหญิงยโสเกินไป ดังนั้นต้องลดลงมาเพื่อให้เกิดความสมดุลในชีวิต หากสวมแหวนได้ที่นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง ช่วยเสริมตำแหน่งหน้าที่การงานและเสริมความมั่นใจ หากสวมแหวนพี่นิ้วโป้งข้างขวาจะช่วยปรับในด้านอารมณ์ปรับความสมดุลให้ชีวิต
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคดีๆ ในการสวมแหวนเสริมดวงสวมแหวนแต่ละนิ้วช่วยเสริมดวงด้านใด สวมแหวนเสริมแหวนเสริมดวงประจำวันเกิด เลือกแหวนเพชรแบบไหน ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียว บางคนทำแล้วชีวิตดีขึ้นจริงบางคนทำแล้วสบายใจ ขึ้นอยู่ที่ความเชื่อหรือความศรัทธาของแต่ละบุคคล